19กันยายน2549

ย้อนไปในวันนี้เมื่อ 17 ปีที่แล้ว ในเวลาราวสี่ทุ่ม
หน่วยทหารขนาดใหญ่เคลื่อนกำลังออกจากกองบัญชาการกองทัพบกไทย ถนนราชดำเนินนอก ลงมาตามถนนราชดำเนิน ยานยนต์หุ้มเกราะมากมายเคลื่อนที่กระจายกำลังกันไปตามจุดสำคัญต่างๆ ของกรุงเทพ ไม่เว้นเเม้เเต่หน้าพระราชวังสวนจิตรลดา
.
ภาพรถถังเเละกองทหารเหล่านี้เป็นที่คุ้นตาสำหรับการเมืองเเบบไทย ๆ ซึ่งผ่านการรัฐประหารทั้งที่สำเร็จเเละไม่สำเร็จมาอย่างโชกโชน เเละการรัฐประการในแต่ละครั้งจะมีรูปเเบบการปฏิบัติการที่คล้ายกัน อย่างการใช้อำนาจวิเศษนอกเหนือรัฐธรรมนูญ เพื่อจัดการและเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่บริหารงานอยู่และรวมไปถึงกฎหมายสูงสุดของประเทศ
.
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำไมถึงเป็นเหตุการณ์ที่มีผล
กระทบจนถึงวันนี้?
เเน่นอนว่าการรัฐประหารก่อให้เกิด ความเปลี่ยนเเปลงด้านต่าง ๆ ต่อประเทศเเละสังคมมากมาย เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง แต่สิ่งที่เเตกต่างประการหนึ่งคือ รัฐธรรมนูญที่ถูกประกาศยกเลิกใช้ไปคือรัฐธรรมนูญฉบับพ.ศ.2540
.
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับพ.ศ.2540 ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุดฉบับหนึ่งในประวัติศาสตร์ เพราะรัฐธรรมนูญมีการถ่วงดุลอำนาจกันระหว่างฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายตุลาการ ที่เข้มข้นขึ้นอย่างมากจากการจัดตั้งองค์กรอิสระ เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฯลฯ
.
แต่ทว่าเมื่อรัฐธรรมนูญถูก ”ฉีก” สิ่งที่ไม่ได้หายไปคือองค์กรอิสระต่าง ๆ และกลับกันองค์กรอิสระเหล่านี้ยิ่งถูกบิดเบือนโดยฝ่ายรัฐประหาร อำนาจหน้าที่ในการตรวจสอบฝ่ายอื่น ๆ ขององค์กรเหล่านี้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง เเละการกระทำเช่นนี้ดำเนินเรื่อยมาจนกระทั่งการเมืองในยุคปัจจุบัน

.

นักการเมืองที่ตกเป็นเป้าขององค์กรเหล่านี้ส่วนใหญ่คือนักการเมืองจากฝ่ายตรงข้าม โดยเฉพาะสมาชิกพรรคไทยรักไทยเเละผู้ที่เกี่ยวข้องในขณะนั้น ตราบจนสมัยของพรรคเพื่อไทย รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่มีความพยายามในการเเก้ไขกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องก็โดนรัฐประหารไปอีกครั้งในปี 2557 ทำให้กฎหมายยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

.

มาถึงยุคปัจจุบัน มีการตัดสิทธิ์ทางการเมืองเเละยุบพรรคอนาคตใหม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจเเละเเกนนำพรรคอีกหลายคนตามคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ไปจนถึงข่าวลือที่ไม่เกินความเป็นไปได้ว่าจะมีการยุบพรรคก้าวไกลเกิดขึ้น

.

ผลกระทบทางสังคม
การที่มีอำนาจหรือ ”มือที่มองไม่เห็น” มากดทับสังคมเเละความต้องการของประชาชนหลายกลุ่ม อาจนำมาซึ่งความไม่พอใจ และนำไปสู่การเเบ่งฝั่งเเบ่งฝ่ายทางสังคมกันอย่างชัดเจนตั้งเเต่นั้นเป็นต้นมา อันจะเป็นผลร้ายต่อบรรทัดฐานในการอยู่ร่วมกันของสังคมภาพใหญ่ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถรักษาให้กลับมาเหมือนเดิมได้โดยง่าย

.

สิ่งที่น่าสนใจตอนนี้คือการจัดตั้งรัฐบาลผสมของพรรคเพื่อไทย โดยมีความคาดหวังว่าการรวมตัวกันของพรรคการเมืองต่าง ๆ ที่อาจจะเห็นไม่ตรงกันในอดีตจะนำมาสู่การเปลี่ยนเเปลงอะไรหลาย ๆ อย่างในสังคมและการเมืองไทยไม่มากก็น้อย

 

อ้างอิง
https://www.dailynews.co.th/news/286319/
https://library.parliament.go.th/th/raththrrmnuuyaehngrachxanacakrithy-phuththsakrach-2540
https://en.wikipedia.org/wiki/2006_Thai_coup_d%27%C3%A9tat
https://www.kpi.ac.th/media_kpiacth/pdf/M8_339.pdf

เนื้อหา ภูมิยศ ลาภณรงค์ชัย


พิสูจน์อักษร วชิรวิชญ์ ปานทน


ภาพ อภิชญาณ์ ระหงษ์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *